ทำไมคิดว่าการ ออกกำลังกาย ไม่ได้ผล? หรือว่าคุณอาจขาด Guideline ที่ดี ขาดหางเสือในชีวิตคุณหรือเปล่า? ในบทความนี้จะว่าด้วยของจิตวิทยาการออกกำลังกาย ไม่มีใครไม่อยากชนะ ซึ่งชนะหรือแพ้ไม่ได้วัดที่การแข่งขันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่การนำวิธีดึงดูดใจผู้ได้รับการฝึกออกกำลังกาย ก็เป็นเคล็ดลับในทางจิตวิทยาอย่างหนึ่ง นั่นเองการที่เราจะทำยังไงไม่ให้รู้สึกเซ็ง รู้สึกเบื่อในการออกกำลังกาย และจะกลายเป็นการหมดไฟเพราะไม่มีแรงจูงใจที่จะทำให้รู้สึกอยากสู้กับมันเลย จากการศึกษาพบว่าการนำหลักจิตวิทยา “ภาวะเกือบจะชนะ” เป็นภาวะที่ได้ผลมากในการออกกำลังกาย ซึ่งสามารถฝึกได้ทั้งด้วยตนเองและแนะนำกลเม็ดให้คนอื่นๆ ได้เช่นกัน

แล้วนี่เองเราจะมาบอกว่าเพราะอะไรการที่เราใช้ภาวะเกือบชนะ มีข้อดีอะไรบ้างที่ทำให้ได้ผลมากกว่าฝึกแบบจำเจ ซ้ำซาก หรือได้ผลดีกว่าออกคำสั่งเพียงอย่างเดียว ซึ่งขอแบ่งเป็นข้อๆ ดังนี้

เพราะอะไร “เกือบจะชนะ” ย่อมดีกว่า
- ทำให้รู้สึกท้าทายมากกว่า เนื่องด้วยเวลาเราจะทำอะไรก็ตาม ทำให้รู้ว่า “เสี้ยวนาที” คืออะไร นั่นแปลว่าอีกนิดก็จะพลิกชีวิตเราได้ เช่น อีกนิดใกล้จะพักแล้ว อีกนิดเราจะชนะคนที่อยู่ตรงหน้าแล้ว อีกนิดเราจะครบแล้ว เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นในชีวิต และในการออกกำลังกายของเราอีกด้วย
- ทำให้เราตระหนัก และระมัดระวังตัวเราได้ดีกว่า จะทำให้เราเริ่มมีวินัยในตัวเองมากขึ้น จากที่ใครเคยเป็นคนปล่อยตัว ไม่อยากจะลดน้ำหนักหรืออยากทำอะไร เราจะรู้สึกว่าใช้ชีวิตไปวันๆ แต่ในขณะเดียวกันการที่เราได้รู้จักว่า “เกือบจะชนะ” จะทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตเราไม่น่าเบื่อ ทำอะไรก็มีสีสันมากขึ้น
- ทำให้มีแรงบันดาลใจที่จะทำอะไรต่อไปเพื่อตัวเอง นั่นก็คือได้รู้จักแข่งขันกับตัวเองในการออกกำลังกาย เพราะการเริ่มแรงบันดาลใจ นอกจากตัวเองแล้วการรู้จักรักตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเอง จะเป็นตัวกระตุ้นในการอยากทำอะไรเพื่อเราเองในชีวิตนี้ ช่วยให้เรากล้าเปลี่ยนแปลงตัวเอง กล้าลงมือ กล้าทำในสิ่งใหม่ๆ และรู้สึกว่าชีวิตมีอะไรน่าลองทำอีกเยอะแยะ ไม่ต้องเก็บตัวอยู่นานอีกแล้ว
แล้วนี่เองก็เป็นข้อดีของภาวะเกือบจะชนะ ในทางจิตวิทยาต้องยอมรับว่าถ้าการ ออกกำลังกาย นำมาใช้กับตัวเองที่ดีพอ เราก็จะสนุกกับมันและมีสีสันมากขึ้น การออกกำลังกายด้วยแรงบันดาลใจแบบเดิมๆ จะไม่น่าเบื่ออีกเลย
ติดตามข่าวสุขภาพและติดตามจำเป็นไหม…ถ้าอยากขาวต้องเสริม คอลลาเจน เสมอไป